เทคโนโลยีกับการเรียนรู้ตลอดชีวิตของครู
ครูสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ
ได้โดยการลงมือปฏิบัติเช่นเดียวกับการเชิญชวนให้นักเรียนร่วมลงมือกับครูด้วย ครูจะอาศัยโอกาสดังกล่าวนี้ในการสังเกตการณ์การท
างานและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ค้นพบด้วยกัน การ เรียนรู้ลักษณะนี้จะช่วยให้ครูผู้สอนที่จะท
าให้ก้าวกระโดดจากทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติที่ประสบความส าเร็จ เพราะ การเรียนการสอนในยุคใหม่ไม่เพียงแต่สอนนักเรียน
แต่ยังต้องดูแลและสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาด้วย กระบวนการของการเรียนรู้ผ่านการแก้ปัญหาเป็นขั้นตอนส
าคัญ ครูจะกระตุ้นให้ผู้เรียนตั้งค าถามและตรวจสอบ ค าถามของพวกเขา
วิธีการเช่นนี้จะท าให้หลักสูตรมีความหมายมากขึ้น บทเรียนไม่จ าเป็นต้องจบลงด้วยค
าตอบที่ ถูก แต่ควรจะเป็นค าตอบที่สามารถขยายผลไปสู่การตั้งคำถามของผู้เรียนต่อไป
เพราะแนวคิดสมัยใหม่มองว่า ความคิดของนักเรียนมีคุณค่า
นักเรียนจะใช้พัฒนาความหมายของตัวเองแทนการถ่ายโอนความรู้จากครู โดยจะ เน้นการคิดเชิงวิพากษ์มากกว่าข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง
โดยผู้เรียนจะเรียนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยมีความก้าวหน้าเราต้องมีการขวนขวายหาความรู้ตลอดเวลา
และสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากและรวดเร็วขึ้น
ปัญหาที่สืบเนื่องมาจากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นต่อห้องเรียน
จนทำให้วิธีการสอนแบบเดิมๆ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
สื่อที่แสดงมีขนาดใหญ่ไม่เพียงพอสำหรับ ผู้เรียนที่อยู่หลังห้อง
ความจดจ่อกับผู้สอนถูกเบี่ยงเบนจากพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนขนาดใหญ่
ผู้เรียนมีการนำเอาคอมพิวเตอร์พกพาเข้ามาสืบค้นความรู้ในชั้นเรียน
และถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ครูกำลังสอน หรือนำข้อมูลเหล่านั้นมาพูดคุย
โดยที่ครูตอบไม่ได้ หรือไม่เคยรู้มาก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมคิดว่าครูจึงต้องพร้อมที่จะปรับตัวและพัฒนาตนเองให้เท่าทันเทคโนโลยีอยู่เสมอ
และต้องมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาทักษะการสอนให้ทันสมัย
เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เทคนิควิธีการเรียนการสอนแบบใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ
ทำให้ได้เด็กมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่สังคมไทยและสังคมโลกต้องการ
ดังที่กล่าวมามีความเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เครื่องมือเป็นสิ่งสำคัญการสร้างสมรรถณะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตลอดเวลา
ตลอดชีวติ เพื่อปรับตัวเข่าสู่สังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าหากเรายังย่ำอยู่กับที่จะเป็นการไม่พัฒนาตัวเอง
เราต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาททางการศึกษาเป็นส่วนสำคัญนอกจากนี้
ครูไทยในอนาคตยังต้องมีความรู้จริงในเรื่องที่สอน
และต้องมีเทคนิควิธีการให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้จากประสบการณ์
รวมทั้งจัดกิจกรรมเชื่อมโยงความรู้จากแหล่งเรียนรู้ภายนอก
ฝึกให้นักเรียนทำงานเป็นทีม เป็นนักออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสม
จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้
และแสดงออกซึ่งความรักและความห่วงใยต่อนักเรียน ทั้งนี้กระบวนการเรียนการสอนดังกล่าวจะสัมฤทธิ์ผลได้
ถ้าทุกคนช่วยกัน หาทางลดปัญหาและอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาครู เช่น
ภาระงานอื่นนอกจากการสอน กำหนดอัตรากำลังไม่เหมาะสม รวมทั้งครูสอนไม่ตรงสาขา
เป็นต้น ซึ่งแนวทางและความเป็นไปได้ในการพัฒนาครูในศตวรรษที่ 21 นั้น
ต้องดำเนินการทั้งด้านนโยบายและด้านการพัฒนาตนเองของครูควบคู่กันไป จึงจะทำให้ครูเป็นครูยุคดิจิตอลอย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น